หาก กู้ยืมเงินนอกระบบ แล้วถูกฉ้อโกงต้องทำยังไง

หลาย ๆ คนมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ต้องยืมเงินด่วนออนไลน์ และต้องหันไปเพิ่งบริการกู้ยืมเงินนอกระบบ ที่เป็นการปล่อยสินเชื่อเงินเดือน 10000 เงินนอกระบบรายเดือน หรือเงินด่วนนอกระบบออนไลน์ ซึ่งส่วนมากถ้าเป็นเจ้าหนี้ที่ไม่ค่อยได้มาตรฐานมักมีลักษณะเป็นเงินนอกระบบไม่โอนไม่ดาวน์นัดทำสัญญา ซึ่งอันตรายมาก เพราะมีโอกาสเจอมิจฉาชีพสูง โดยกลโกงส่วนมากที่มิจฉาชีพนิยมใช้มักจะมีการอ้างว่า ตนเป็นสายด่วนหนี้นอกระบบ, เงินนอกระบบได้จริงไม่โอนก่อน, เงินด่วนโอนเข้าบัญชีนอกระบบ หรือ บริการเงินด่วนนอกระบบปล่อยจริง ซึ่งจะมีการใข้คำที่ดูเหมือนจะกู้ได้ง่ายเกินจริง ดังนั้นถ้าไม่อยากเสี่ยงให้ลองไปสมัครสินเชื่อบัตรเครดิตดูก่อนก็ไม่เสียหาย แต่มีวิธีที่จะแยกแยะมิจฉาชีพได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ 

กลโกงของมิจฉาชีพที่ให้กู้ยืมเงินนอกระบบมีอะไรบ้าง 

1. เปิดเพจเฟซบุ้กปลอม

ลักษณะแรกเลยก็คือสร้างตัวตนปลอมขึ้นมาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยอวดอ้างว่าเป็น เงินกู้ด่วนนอกระบบ และเป็นแหล่งเงินกู้นอกระบบ โดยที่ใช้เวลาพิจารณาไม่นาน ซึ่งสินเชื่อส่วนบุคคลนอกระบบเหล่านี้ มักจะมีผู้มารีวิวในเพจเกินจริงและมีจำนวนไลค์เยอะผิดสังเกต

2. ขอข้อมูลส่วนตัว 

เงินด่วนนอกระบบออนไลน์เหล่านี้มักจะขอเอกสารส่วนตัว เช่น หน้าบัตรประชาชน, หน้าบุ้กแบงค์, สำเนาทะเบียนบ้าน ข้อมูลสินเชื่อบัตรกดเงินสด และรูปถ่ายของคุณคู่กับบัตรประชาชน

3. ขอเงินมัดจำ

นี่คือพิรุธข้อใหญ่ของมิจฉาชีพคือการขอเงินมัดจำก่อน โดยอาจจะอ้างว่านำไปเป็นค่าดำเนินการ ค่าส่งเอกสาร เช็คประวัติการเงิน ซึ่งใด ๆ ก็แล้วแต่นั่นไม่มีทางเป็นความจริงอยู่แล้ว เพราะหากคุณเคยมีประวัติเคยขอสินเชื่อมาบ้างจะทราบได้ว่าค่าเหล่านี้เราไม่ต้องจ่าย

4. ปลอมเอกสารให้ดูน่าเชื่อถือ

มิจฉาชีพมักจะปลอมเอกสารขึ้นมา เช่น เอกสารจดบริษัท วิธีการคือคุณสามารถเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นบริษัทจริงหรือไม่ได้ที่ www.dbd.go.th

5. เมื่อได้เงินแล้วติดต่อไม่ได้หรือดึงเชิง 

เมื่อได้เงินไปแล้วมิจฉาชีพส่วนมากนั้นจะบล็อคช่องทางการติดต่อไปเลย และมีบ้างบางคนที่ยังคงติดต่อได้แต่ว่ายื้อเวลาไปเรื่อย ๆ โดยไม่จ่ายเงินให้ เพื่อให้เหยื่อตายใจ

ทำอย่างไรเมื่อโดนโกงจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ

1. เก็บหลักฐานการทำธุรกรรมกับโจรเอาไว้ให้ครบถ้วน ทั้งช่องทางติดต่อ ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลบัตรเดบิต และ หลักฐานการโอนเงิน 
2. แจ้งความโดยระบุเอาไว้ว่าต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อให้ทางเต้าหน้าที่ช่วยติดตามคดี
3. แจ้ง ปอท. หรือ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เข้ามาช่วยเหลือ
4. นำใบแจ้งความไปขออายัติบัญชีของโจร ณ ธนาคารของโจรที่คุณโอนเงินไปสาขาใดก็ได้

ข้อควรระวังเพื่อไม่ให้ถูกหลอก

1. ไม่โลภมาก
2. ตัดสินใจด้วยการมองความจริง
3. ติดตามข่าวสารบ้านเมือง

บทลงโทษผู้ฉ้อโกง

• มาตรา 12 “ในส่วนของบทลงโทษตามพระราชกำหนดฯ นี้มีอัตราโทษหนักกว่าประมวลกฎหมายอาญาคือ ผู้กระทำความผิดเรื่องการฉ้อโกงประชาชนได้ระวางโทษผู้กระทำความผิดไว้เพียงจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่อัตราโทษของผู้กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 นี้มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 บาทถึง 1,000,000 บาท และยังมีการปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่”
• และอาจจะมีความผิดในเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พศ.2560 มาตรา 14 (1) มีอัตราโทษเท่ากันกับข้อหาฉ้อโกง คือ จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งหมดนี้คือแนวทางที่คุณควรปฏิบัติหลังจากที่โดนโกงจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ แต่เหนือสิ่งอื่นใดการที่จะป้องกันไม่ให้คุณเสียรู้เช่นนี้ คือการมีสติมาก ๆ คิด วิเคราะห์จากพื้นฐานความเป็นจริง หากต้องการกู้ยืมเงินนอกระบบ เงินนอกระบบได้จริง 2563 อนุมัติง่าย โปร่งใส ดอกเบี้ยต่ำ ได้ที่นี่ ปล่อยเงินนอกระบบ กรุงเทพ บริการเงินด่วนนอกระบบปล่อยจริง สินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 2563